ชา กาแฟ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552กระแสฮิตติดตลาดในระยะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของ ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก เมื่อเดือนที่ผ่านมานี้ก็มีข่าวคราวที่ น่าสะ เทือนใจที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวผู้หนึ่งที่ต้องการลดน้ำหนัก และกินยาเพื่อลดน้ำหนักเกินขนาด จนเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งหลายๆ ปีที่ผ่านมาก็มีข่าวคราวในทำนองเดียวกันเกิดขึ้นอยู่เป็นระยะ น่าเสียดายที่เรามองข้ามความปลอดภัยของการใช้ยา หรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในการลดน้ำหนัก ทำให้แทนที่จะมีสุขภาพดีกลับกลายเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไปอีก
หมอลองค้นหาใน Google โดยใช้คำว่า ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหรืออาหารเสริมลดน้ำหนัก มีรายชื่อ Website เป็นล้าน นี่ขนาดว่าเป็นแค่ Web ภาษาไทยเท่านั้นนะ และจำนวนไม่น้อยเป็นผลิตภัณฑ์ชาหรือกาแฟเพื่อลดน้ำหนัก อันเป็นที่มาของคำถามในวันนี้ที่มีคนไข้มาถามหมอว่าเธอซื้อชายี่ห้อหนึ่งมา คนขายบอกว่าให้กินหลังอาหาร 3 มื้อ จะช่วยลดน้ำหนักได้และยังจะช่วยลดระดับ น้ำตาลในเลือดซึ่งเธอกำลังมีปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มผิดปกติ
หมอ : แล้วน้ำหนักลดหรือเปล่าล่ะคะ
คนไข้ : ยังเลยค่ะ เหมือนจะเพิ่มขึ้นนิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่เขาบอกว่าต้อง 2-3 เดือนนะคะถึงจะเห็นผล
ก็มีแต่ ‘เขาว่า’ ทั้งนั้นแหละค่ะที่จะเห็นผล(ดี) พอเป็น ‘เราว่า’ บ้างมักจะกลายเป็นเห็นผลตรงกันข้ามไปเสียนี่จริงๆ แล้ว ที่ชาหรือกาแฟมาฮิตมากในช่วงหลังๆ ในการนำมาใช้ในการลดน้ำหนักนั้นมีที่มาที่ไปนะคะ มีการศึกษาทางการแพทย์มาเป็น 10 ปี ที่พบว่ากาเฟอีนที่เป็นส่วนผสมหลักในชาหรือกาแฟนั้น เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะมีผลในด้าน Thermogenesis ทำให้ร่างกายมีการ เผาผลาญใช้พลังงานมากขึ้น เคยมีการศึกษาของชาเขียว พบว่าถ้าดื่มชาเขียววันละ 5แก้ว ร่างกายจะมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นประมาณ70-80 แคลอรี (ซึ่งสำหรับชาเขียวแล้วผลของการเพิ่มการใช้พลังงานของร่างกายเมื่อดื่มชา อาจจะเป็นผลพวงขององค์ประกอบอื่นๆ ในชานอกเหนือจากกาเฟอีน)การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นหลังจากการดื่มชา/กาแฟนี้เองที่ทำให้ผู้ผลิตนำชา/กาแฟมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
อันที่จริงหลักการลดน้ำหนักนั้นง่ายมากเลยค่ะ คือกินให้น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายใช้ เมื่อร่างกายมีการใช้พลังงานมากกว่าที่กินก็จำต้องสลายเอาไขมันที่สะสมตาม ร่างกายมาเป็นพลังงานแทน แต่การจะเอาไขมันที่พอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกายให้หายไป 1 ปอนด์ หรือเกือบครึ่งกิโลกรัมนั้น เราต้องใช้พลังงานมากกว่าที่ได้จากการกินเข้าไป (Calories Deficit) ถึง 3,500 แคลอรี! สมมติว่าเราต้องการลดน้ำหนัก 1/2 กิโลกรัม ใน 1 สัปดาห์ นั่นหมายถึงใน 1 สัปดาห์หรือ 7 วันนี้เราต้องมี Calories Deficit ประมาณ 3,500 แคลอรี หรือคิดง่ายๆ ว่าวันละ 500 แคลอรี ซึ่งเราจะประสบความสำเร็จในการใช้พลังงานมากกว่าที่ร่างกายได้รับวันละ 500 แคลอรีได้ 3 ทางคือ
1.กินให้น้อยลงวันละ 500 แคลอรี โดยใช้พลังงานหรือทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม เช่น เลิกดื่มน้ำอัดลมที่เคยดื่มวันละ 2 ขวด กับเปลี่ยนจากกินข้าวมันไก่มาเป็นสุกี้น้ำไก่ ก็จะลดแคลอรีจากอาหารที่กินได้ประมาณ 500 แคลอรี วิธีนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ และน้ำหนักที่ลดได้มักจะคงอยู่ได้ไม่นาน
2. กินลดลงบ้าง ร่วมกับการออกกำลังกาย เช่น เลิกดื่มน้ำอัดลม 2 ขวด แต่ยังขอกินข้าวมันไก่ แต่ยอมไปออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ 1 ชั่วโมง วิธีนี้ดีต่อสุขภาพที่สุด และจะลดน้ำหนักได้ถาวรที่สุด (แต่อย่างไรข้าวมันไก่ก็ไม่ควรกินบ่อยนะคะ)
3.ไม่ยอมอดอาหารเลยแต่ยอมออกกำลังกายแทน ซึ่งถ้าเราหนัก 80 กิโลกรัม ต้องการออกกำลังกายเพื่อจะเผาผลาญให้ได้ 500 แคลอรี ต้องพยายามอย่างสูง เช่น วิ่งเหยาะ 1 ชั่วโมง หรือเดินเร็ว 1 ชั่วโมงครึ่ง เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ประสบความสำเร็จยกเว้นเป็นนักกีฬาที่ต้องออกกำลังกายทั้ง วัน
สำหรับชา/กาแฟ ที่ มีฤทธิ์เพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายดังกล่าวจะเปรียบเสมือนกับการออก กำลังกายที่ร่างกายใช้พลังงานเพิ่ม ลองดูว่าถ้าเราเลือกทำตามข้อ 3 คือ ดื่มแต่ชา/กาแฟเพื่อช่วยลดน้ำหนักแทนการไปออกกำลังกาย อาจจะต้องดื่มชาถึงวันละกว่า 30 แก้ว (ชา 5 แก้วเพิ่มการใช้พลังงานประมาณ 70-80 แคลอรี) ซึ่งคงจะไม่ไหว นอกจากนี้กาเฟอีนในชากาแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆถ้าดื่มมากเกินไปอาจจะเกิด ปัญหาใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ นอนไม่หลับ ท้องผูก ความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน เป็นต้น
ดังนั้นหมอก็เลยแนะนำคนไข้ของหมอว่าถ้าอยากจะลดน้ำหนัก ให้สุขภาพดี คงต้องลงทุนลงแรงด้วยการคุมอาหารบ้าง ออกกำลังกายบ้าง และถ้าตนเองไม่มีข้อห้ามกับการดื่มชา/กาแฟ ก็อาจจะดื่มได้ เช่น วันละ 1-3 แก้ว ไม่ใช่แค่ดื่มชาหรือกาแฟ (โดยไม่ทำอะไรอื่นอีกเลย) แล้วหวังว่าน้ำหนักตนเองจะลดลงได้ แต่ทั้งนี้ระวังนมและน้ำตาลที่ใส่ลงในชา/กาแฟด้วยนะคะ น้ำตาล 2 ช้อนชา ให้แคลอรีเท่ากับข้าว 1/2 ทัพพีค่ะ
ข้อมูลจาก http://women.sanook.com
การดื่มนมเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้เกิดสิว
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐฯ กล่าวว่า เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายที่มีสิวขึ้นบนใบหน้าว่า ให้ลดปริมาณการดื่มนมให้น้อยลง เพราะก่อนหน้านี้เคยมีการทดลองแล้ว พบว่า ถ้า อยากจะห่างสิวควรจะเลิกกินมันฝรั่งทอดกรอบและช็อกโกแลต แต่ในการทดลองใหม่นี้ได้แสดงว่าวัยรุ่นที่ดื่มนมประจำวันละไม่น้อยกว่า 476 ซีซี ล้วนแต่เป็นสิวกันครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่าหรือไม่ดื่มเลย
นมมีความเกี่ยวพันกับการเป็นสิวอย่างชัดเจน รายงานผลการทดลอง ซึ่งเสนอในวารสารวิชาการ “แพทย์โรคผิวหนัง” แห่งอเมริกัน ยังกล่าวอีกว่า ฮอร์โมนการเจริญเติบโต และฮอร์โมนเพศในน้ำนมวัว อาจจะเป็นเครื่องกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้
ใครที่กำลังเป็นสิว และไม่แน่ใจในสาเหตุการเกิดสิว ลองลดปริมาณการดื่มนมดนมเปรี้ยวกับการลดความอ้วน
สามารถรับประทานนมเปรี้ยวแทนนม และได้รับคุณค่าทางอาหารของนมได้
สำหรับ ความเข้าใจที่ว่านมเปรี้ยวจะไม่ทำให้อ้วนนั้นจริงๆแล้ว พลังงานทั้งหมดที่ได้จากนมเปรี้ยว จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต เช่น ถ้านมเปรี้ยวที่ทำจากนมสดก็ย่อมให้พลังงานมากกว่านมเปรี้ยว ที่ทำมาจากนมพร่องมันเนย ซึ่งมีไขมันต่ำกว่า แต่หากมีการเติมน้ำตาลมากๆเพื่อให้มีรถหวาน นมเปรี้ยวนั้นก็อาจให้พลังงานมากกว่านมธรรมดาๆก็ได้ เวลาที่จะเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน ต้องดู ละเอียดต่างๆบนผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะบอกส่วนประกอบสำคัญว่ามีอะไรบ้าง นอกจากนี้ ที่ฉลากยังจะบอกชื่ออาหาร ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตปริมาตรสุทธิ ข้อความที่แสดงว่ามีการใช้วัตถุเจือปนอาหาร ในกรณีที่มีการใช้ที่สำคัญมีเครืองหมาย อย. แสดงเลขทะเบียนตำรับอาหารหรือเลขที่รับอนุญาตให้ใช้ฉลากอาหาร และวันเดือนปีที่หมดอายุ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเลือกซื้อนมเปรี้ยวมารับประทาน นอกจากดูรายละเอียดบนฉลากแล้วต้องตรวจดูภาชนะบรรจุ ว่าอยู่ในสภาพเรียนร้อยหรือไม่ มีการปิดผนึกสนิท ไม่รั่ว ซึมหรือฉีกขาด และการเก็บสินค้าต้องเก็บอย่างถูกต้องเหมาะสม เช่น ถ้าเป็นนมพาสเจอร์ไรส์ ต้องเก็บในตู้เย็นหรือตู้แช่ อุณหภูมิไม่เกิน10องศาเซลเซียส นมยูเอชทีสามารถเก็บในห้องธรรมดาได้ แต่ต้องไม่อยู่ใกล้ความร้อน หรือถูกแสงแดด และไม่วางทับซ้อนกันหลายชั้นเกินไป จนทำให้กล่องนมย่นเมื่อซื้อนมเปรี้ยวมาแล้วต้องเก็บในที่ๆ เหมาะสมและก่อนที่จะรับประทานอย่าลืมดูลักษณะของนมเปรี้ยวว่าปกติดีหรือไม่ เช่น นมเปรี้ยวชนิดเหลวต้องไม่จับตัวเป็นก้อนที่ก้นขวด ถ้าเป็นชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลว ต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แตกตัว และอย่าลืมตรวจดูฉลากโดยเฉพาะวันหมดอายุ
หุ่นสวยด้วย...นม
สาวๆ ทราบหรือเปล่าคะว่า การที่คุณมีนมหรือโยเกิร์ตติดตู้เย็นไว้ที่บ้านเป็นประจําเนี่ย มันสามารถทําให้น้ำหนักตัวคุณลดลงได้ด้วยนะ อ๊ะๆ ไม่เชื่อละสิ ถ้างั้นก็ต้องรีบมาอ่านข้างล่างนี้ดูกันแล้วละค่ะ
แคลเซียมในนมช่วยลดน้ำหนัก
จาก การศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มนมในกลุ่มของคนอ้วนที่กําลังลดน้ำหนักพบ ว่า กลุ่มที่ดื่มนมเป็นประจําในปริมาณที่สูงจะ สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่ม ที่ไม่ค่อยจะดื่มนมเลยหรือดื่มในปริมาณที่น้อยกว่าโดยที่ทั้งสองกลุ่มรับ แคลอรีเข้าไปเท่ากัน ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะแคลเซียมในนมจะมีผลไปขัดขวางการสร้างหรือสะสมไขมัน เมื่อมีการสร้างและสะสมไขมันลดลงแล้ว ร่างกายก็จะเกิดการเผาผลาญไขมันได้มากขึ้น ทําให้น้ำหนักตัวลดลงค่ะ และยิ่งไปกว่านั้น หากคุณดื่มนมให้ได้วันละ 3-4 กล่องต่อวันแล้วจะยิ่งช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง มากกว่าการกินอาหารเสริมจําพวกแคลเซียมหรืออาหารอื่นๆ ที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบด้วยซะอีกค่ะ
นมกับการไดเอ็ท
สํา หรับสาวๆ ที่กําลังคิดจะให้นมเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักนั้น อย่าลืมคํานึงถึงปริมาณของแคลเซียมและโปรตีนในนมด้วยนะคะ ซึ่งคุณควรเลือกชนิดที่มีแคลเซียมและโปรตีนสูง แต่ให้พลังงานต่ำ อย่างพวกนมพร่องไขมัน นมขาดไขมัน หรือโยเกิร์ตพร่องไขมันนี่แหละ ใช่เลย และก็ควรเลือกแบบรสธรรมชาติหรือรสจืดมากกว่ารสอื่นๆ ด้วยนะคะ เพราะการปรุงแต่งรสนั้นย่อมหมายถึงการเพิ่มปริมาณน้ำตาลเข้าไป จะทําให้เราได้รับพลังงานจากน้ำตาลเพิ่มขึ้นมาอีกเป็นกระบุงด้วยค่ะ
นอก จากนี้ ในนมยังมีแร่ธาตุต่างๆ อย่างฟอสฟอรัสและแมกนีเซียมซึ่งจะไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคลเซียมในการ ขัดขวางการสะสมไขมันในเซลล์ด้วยนะ แถมยังมีโปรตีนในนมที่ช่วยรักษากล้ามเนื้อและเพิ่มอัตรา เมตาบอลิซึ่มให้ดีขึ้นอีกด้วยละ เอ้า เห็นข้อดีของการดื่มนมอย่างนี้แล้ว เห็นทีสาวๆ รักสุขภาพอย่างเรา จะต้องรีบหันมาดื่มนมให้ได้วันละ 3 แก้วกันแล้วละค่ะ
Make a Choice! สาวๆ รู้มั้ยคะว่า นมและผลิตภัณฑ์จากนมประเภทต่างๆ มีปริมาณแคลอรีและแคลเซียมอยู่กันเท่าไหร่
* นมขาดไขมัน รสจืด 110 แคลอรีแคลเซียม 373 มิลลิกรัม
* นมข้นหวาน 1 ช้อนโต๊ะ 70 แคลอรี แคลเซียม 54 มิลลิกรัม
* นมเปรี้ยวพร่องมันเนย 140 แคลอรี แคลเซียม 114 มิลลิกรัม
* โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 120 แคลอรี แคลเซียม 189 มิลลิกรัม
ข้อมูลจาก http://health.deedeejang.com
สวยด้วยเกลือ
วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2552
เกลิอนอกจากจะมีประโยชน์มากมายแล้ว ทราบหรือไม่ว่าเกลือก็สามารถทำให้สวยได้ วันนี้มีสูตรสวยด้วยเกลือมาฝากกัน...
1. ลดรอยช้ำรอบดวงตา
ผสมเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำร้อนครึ่งถ้วย จากนั้นใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำเกลือมาปิดตาไว้สัก 5-10 นาที รอยช้ำรอบดวงตาจะค่อยๆจางลง
2. หน้ามันน้อยลง
ใช้ ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนพอหมาดมาปิดหน้าไว้สัก 3-5 นาที เพื่อช่วยเปิดรูขุมขนก่อน ต่อจากนั้นใส่น้ำลงในขวดสเปรย์ เติมเกลือลงไป 1 ช้อนชา เขย่า ให้เกลือละลายแล้วฉีดเกลือใส่หน้าให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้แห้ง
3. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
ผสม เกลือ 1/2 ถ้วยลงในอ่างอาบน้ำ แช่ตัวประมาณ 15-20 นาที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้งแล้วทาครีมบำรุงผิวซ้ำ เกลือจะช่วยให้ผิวชุ่มชื่นยิ่งขึ้น
4. ขัดผิวให้สวยใส
โดย ใช้เกลือผงถูตัวแล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูขัดตัวให้ทั่วช่วยให้เซลล์ผิวหนัง ที่ตายแล้วหลุดออกมา ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายด้วย
5. ผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าที่เท้า
ผสม เกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่น นั่งแช่เท้าประมาณ 30 นาที วิธีนี้เหมาะกับคนที่เดินนาน ๆ รวมทั้งสาว ๆ ที่ต้องใส่ส้นสูงตลอดวัน
รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำเกลือมาทำตามวิธีที่แนะนำกันดูได้.
วิธีมองโลกในแง่ดี
ทุกวันนี้มีแต่เรื่องให้เราต้องเครียด ปวดหัว รำคาญใจไม่เว้นแต่ละวัน เราจะมีวิธีสร้างความสุขให้กับตัวเราเองยังไงบ้างคะ |
@ ส่งยิ้มให้เธอแล้ว ไม่แยแส ยังดี..นะเนี่ย ที่เธอไม่ด่ากลับมา นี่แสดงว่าเธอยังมีน้ำใจดีอยู่บ้างโอ.. ซาบซึ้งเหลือเกิน ถึงเราจะแห้ว..แต่เราก็ยังประทับใจในความดีของหล่อน
@ โดนแม่ด่าแต่เช้าตรู่ แม่ด่าเรา แสดงว่าแม่ยังรักและห่วงใยเราอยู่ โห..ซาบซึ้งมากเลย อีกอย่างหนึ่งในคำด่าของแม่ต้องมีอะไรดีๆ ซ่อนไว้แน่ ๆ ไม่อย่างนั้นแม่ไม่ด่าซ้ำ ๆ เรื่องเดิม ๆ อย่างนี้หรอก
@ ครูสอนไม่รู้เรื่องเลย ท้าทายมาก ..ท้าทายมาก นี่หมายความว่าคุณครูกำลังท้าทายเรา ว่าถ้าข้าสอนห่วยๆ แบบนี้ เอ็งจะรู้เรื่องหรือเปล่า อย่างนี้ยอมไม่ได้..เราต้องขวนขวายเอาเอง เพื่อพิสูจน์กึ๋นให้คุณครูรู้ว่าเรานี้ก็ไม่เบาเหมือนกาน..น
@ เพื่อนหักหลัง ไม่เป็นไร..ขอกันกินมากกว่านี้ แต่น่าสงสารนายนะ เพราะนิสัยของนาย คงจะทำให้นายต้องเสียเพื่อนไปหมดทุกคนในไม่ช้า เพราะคงไม่มีใครหรอกที่จะไว้ใจคนที่หักหลังเพื่อน.
@ เพื่อนล้อว่าเสี่ยว โห..! ตัวเรานี่มีอะไรดีๆ เยอะแยะ แต่พวกนายกลับมองไม่เห็นคุณค่าสงสัยว่าการมองโลกของพวกนายคงจะมีปัญหาแล้ว ล่ะ เสียใจด้วยนะ.ที่นายคงหมดโอกาสจะได้คบกับคนดี ๆ อย่างเรา
@ เช็คเมล์เจอแต่จดหมายขยะชวนดูรูปโป๊ ทดสอบ ๆ ทดสอบพลังจิต ถ้าเราลบเมล์พวกนี้ทิ้ง แสดงว่าจิตใจของเราเข้มแข็ง ถ้าเปิดดู ก็อ่อนแอ (เผลอ ๆ โดนหลอกให้เปิดไวรัสอีกต่างหาก อิอิ)
@ วันหยุดการบ้านเพียบ สบายมาก..คุณครูกำลังท้าทายความสามารถของเรา(อีกแล้ว) เรารู้ทันหรอกน่า การบ้านเยอะอย่างนี้เราก็ว่าดีนะ เพราะได้ฝึก ตัวเองให้เป็นคนสู้งานหนัก ถ้าเราสู้ไม่ถอยในวันนี้ อนาคตไปโลด
@ อกหักอีกแล้ว ไม่เป็นไร ได้เรียนรู้ชีวิต นี่ป็นการพิสูจน์สัจจธรรมอีกครั้งว่า รักแท้คือแม่เรา ว่าแต่ตัวเราเอง คอยปรับปรุงตัวเองให้ดีๆ เหอะ ชีวิตดีขึ้นเดี๋ยวก็มีคนมาชอบเราเองแหละ
@ รถติดหงุดหงิดๆ นั่งสมาธิมันเสียเลย จิตใจสว่างไสว เรียนหนังสือจะได้จำแม่น ง่ายจะตาย หลับตาหายใจเข้าออกลึก ๆ นับ 1 2 3 4 5 ดูลมหายใจเข้าออกเพลิน ๆ ไม่ต้องไปรอคอยอะไร
@ โห..ใช้เงินเพลินหมดเรียบเลย " เงินหมด ก็อดอย่างเสือ" ดีสิ..จะได้ฝึกนิสัยอดทนสักระยะ ยังมีคนอื่นที่ทุกข์มากกว่าเราเยอะแยะ ทุกข์ของเรามันแค่เรื่องขี้ผง
@ เพื่อนมีมือถือ แต่เราไม่มี โชคดีแล้วล่ะที่ไม่มี มือถือเนี่ยตัวดูดเงินเลย วัยรุ่นบางคน เมาท์จนล้มละลาย อย่าเห่อไปตามกระแสหน่อยเลย ชีวิตนี้ไม่ได้ดีขึ้นเพราะมือถือหรอกนะ
@ เราหน้าตี๋ กลม ๆ เหมือนดวงจันทร์ ..อายจัง โด่..หล่อจะตาย สมัยก่อนนู้น เขาคลั่งไคล้มาก ขนาดที่เมืองจีน เวลาปั้นพระพุทธรูป เขายังปั้นให้หน้าอูม ๆ เลย จริงอยู่สมัยนี้เขานิยมคนหน้าตาแบบลูกครึ่งฝรั่ง แต่อีกหน่อยก็เลิกฮิต เชื่อเหอะ ไม่แน่นะ ในอนาคตแฟชั่นหน้าตี๋อาจจะกลับมานิยมอีกก็ด้าย...อ้อ ! อีกอย่างสมัยนี้ สาว ๆ ที่ฉลาด เขาชอบคนดีมากกว่าคนหล่อ นะจะบอกให้
@ ชอบเขา แต่เขาไม่ชอบเราง่ะ ธรรมดาเลย.. ปิ๊งใครง่าย ๆ มันก็ต้องกิน"แห้ว"ประจำ ที่จริงชีวิตของเรานั้นมีคุณค่ามากนะ จะปล่อยให้เรื่องเล็กๆ แค่นี้มาทำให้ชีวิตของเราไร้ค่าได้อย่างไร ทำตัวเองให้มีค่า ดีกว่า เดี๋ยวก็มีคนดี ๆ มาชอบเราเองหรอกน้า..า
@ เฮ้อ ! แฟนดูรูปโป๊ประจำ ดูเข้าไปเลย..เห็นพระท่านว่าพวกผู้ชายที่ชอบดูรูปโป๊มาก ๆ ชาติหน้าพวกนี้จะไปเกิดเป็นผู้หญิงกันหมด เพราะจิตใจฝักใฝ่แต่รูปร่างผู้หญิง ดีสม..! ชอบเอา เปรียบกันนักไปเกิดเป็นผู้หญิงเองเสียบ้าง จะได้รู้สึก (เขาเรียกว่าไป "ที่ชอบๆ" ฮิ ฮิ)
@ ผิดหวังผลสอบดูหนังสือแทบตายได้แค่ เกรด B เรียนแล้วได้วิชาความรู้ มันก็เหมือนทำงานแล้วได้เงินเดือน การได้เกรด A ก็คล้ายๆ กับว่าเราได้โบนัส ทีนี้ถึงเราจะไม่ได้โบนัส มันก็ไม่น่าจะเสียใจอะไร ก้อเราได้เงินเดือนแล้วนี่นา
@ เข้าคิวซื้อตั๋วหนังอยู่ดีๆเพื่อนเล่นแซงคิวหน้าตาเฉย โถ.. ! น่าสงสาร ยอมเสียนิสัย เพื่อแลกกับตั๋วหนังเพียงใบเดียว
@ ข้างห้องเปิดเพลงเสียงดังหนวกหูทั้งวัน เสียงภายนอกดังสนั่น แต่เสียงภายในเงียบสนิท ถึงเสียงวิทยุจะดังปานใด แต่ใจฉันก็ไม่เคยหงุดหงิด ฉันยังคงทำงานของฉันไปอย่างมีความสุข
@ คนชอบมาแซวเราว่า"น้องดำ ดอทคอม" ผิวอย่างฉันเขาเรียกว่า "คมขำ" ย่ะ หนุ่มๆ ฝรั่งหลงใหลจะตายไป พวกนายคงโดนโฆษณาหลอกแล้วล่ะ"ฉันคือตัวฉัน" ไม่ต้องให้ใครมาจูงจมูกหรอกนะ
@ เฮ้อ..! ไม่รู้จะทำอะไรดีเซ็ง..ง ระเบิด ! แอ็คทีฟเข้าไว้เพื่อน อย่าให้ความเซ็งเข้าครอบงำ ทำทุกอย่างด้วยความกระฉับกระเฉง หนึ่ง สอง..ๆๆๆ หาอะไรทำให้มันสนุก หนึ่ง สอง... ๆๆ
@ รู้สึกว่าตัวเองโง่โดนคนอื่นหลอกอยู่เรื่อย นึกว่าตัวเองโง่ ยังดีกว่านึกว่าตัวเองฉลาด พระท่านว่าคนฉลาดคือคนที่รู้ตัวเองว่าโง่นะ (แต่อย่าเผลอไปโดนเขาหลอกอีกล่ะ อิ อิ)
โรคข้อเสื่อม
วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552
|
|
|