จุดกำเกิดกลิ่น ในตัวเรา
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552Posted by
noobo
0 Comments
กลิ่นปาก
สาเหตุของกลิ่นปาก ส่วนใหญ่เกิดจากเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน บริเวณ ที่ทำความสะอาดได้ยาก หรือในรูฟันผุ ซึ่งจะมีเศษอาหารเน่าอยู่ รวมทั้งแผ่นคราบฟันและหินปูนที่อยู่รอบๆ ฟัน ซึ่งเป็นที่เก็บกักและสะสมเชื้อโรคต่างๆ บางคนพบว่าเหงือกเป็นหนองจากโรคปริทันต์ หรือมีฟันโยก อาหารบางชนิดเมื่อรับประทานจะมีกลิ่นขับออกมาทางลมหายใจ เช่น หัวหอม กระเทียม ทุเรียน ผู้ที่ดื่มสุรา หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ หรือท้องผูกหลายๆ วัน ก็ทำให้เกิดกลิ่นปากได้ รวมทั้งผู้ป่วยโรคทางร่างกายบางอย่าง เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง วัณโรค โรคปอด และโรคระบบทางเดินอาหาร
ภายหลังตื่นนอนใหม่ๆ กลิ่นปากจะแรง เพราะในขณะที่นอนหลับน้ำลายจะถูกขับออกมาน้อย ทำให้น้ำลายมีการหมุนเวียนน้อย เศษอาหารที่ตกค้างสะสมอยู่จึงมีการบูด เกิดเป็นกลิ่นปากค่อนข้างแรง เมื่อตื่นนอนได้แปรงฟัน และน้ำลายมีการไหลเวียนมากขึ้น กลิ่นปากก็บรรเทาลง น้ำลายเปรียบเสมือนน้ำยาบ้วนปากที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมา ช่วยชะล้างสิ่งสกปรกภายในช่องปาก เมื่อมีน้ำลายหลั่งออกมากทำให้ช่องปากสะอาดมากกว่าน้ำลายที่หลั่งออกมาน้อย ช่วยลดการบูดเน่าของอาหารที่ทำให้เกิดกลิ่น น้ำลายจะหลั่งออกมาได้มากในขณะเคี้ยวอาหาร รับประทานของเปรี้ยว หรือการคิดถึงอาหารอร่อยๆ ที่ชอบ ในบางขณะจะมีการหลั่งน้ำลายน้อย เช่น เวลานอน ภาวะอดอาหาร การดื่มน้ำไม่เพียงพอ อากาศร้อน ตลอดจนภาวะทางจิตใจ ความเครียด อาชีพที่ใช้เสียงมากๆ เช่น ครู ทนายความ มีผลให้มีน้ำลายน้อย และมีกลิ่นปากได้
สรุปว่ากลิ่นปากเกิดได้จากหลายๆ สาเหตุ หากแก้ไขที่ต้นเหตุได้ก็จะเป็นวิถีทางที่ดีที่สุด เพราะการใช้ของสำเร็จรูปนั้นเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและชั่วคราวเท่านั้น
กลิ่นตัว
สัตว์ โลกทุกชนิดรวมถึงมนุษย์ต่างก็มีกลิ่นตัวด้วยกันทั้งนั้น และกลิ่นตัวก็เป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวของสัตว์แต่ละชนิด หรือคนแต่ละเชื้อชาติ เช่น สกั๊ง (skunk) มีกลิ่นเฉพาะตัวที่เหม็นรุนแรง ซึ่งกลิ่นนี้ถูกปล่อยออกมาเพื่อใช้ในการป้องกันตัว หมู (pig) ก็ปล่อยสาร pheromone ออกมาเพื่อดึงดูดเพศตรงข้ามให้มาผสมพันธุ์ ชะมด (musk) ก็มีกลิ่นตัวเหม็นมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติพิเศษของสัตว์ชนิดนี้ กลิ่นตัวของทั้งคนและสัต์นั้นเกิดจากสารเคมีที่ร่างกายขับออกมาทางเหงื่อ น้ำลาย ลมหายใจและทางปัสสาวะ
สำหรับในคนนั้น บางคนก็มีกลิ่นตัวหอมซึ่งนับว่าโชคดี เป็นที่ปรารถนาของสังคม แต่คนที่โชคร้ายคือคนที่มีกลิ่นตัวไม่สู้จะดีนัก และคนที่โชคร้ายและน่าสงสารที่สุดก็คือคนที่มีกลิ่นตัวเหม็น ซึ่งถ้าเป็นมากก็เรียกว่าเป็น โรคกลิ่นตัวเหม็น หรือ Primary Trimethylaminuria เพราะคนที่เป็นโรคนี้ นอกจากจะมีกลิ่นตัวเหม็นคล้ายกลิ่นปลาเน่าแล้ว ยังมีลมหายใจที่มีกลิ่นไม่พึงปรารถนาอีกด้วย ดังนั้น คนเหล่านี้จึงเป็นพวกที่ชาวบ้านเรียกว่า เป็นโรคกลิ่นปลาเน่า (Fish-Malodor Syndrome) และคนที่เป็นโรคนี้ก็เป็นคนที่น่าสงสารมาก เพราะจะถูกสังคมรังเกียจ และยังส่งผลกระทบต่อการครองเรือนอีกด้วย ซึ่งบ่อยครั้งบุคคลเหล่านี้จะกลายเป็นคนซึมเศร้าหรืออาจคิดฆ่าตัวตายได้
ยกตัวอย่างเช่น วัยรุ่นสาวอายุ 20 ปี จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นตัวเหม็น เมื่อตอนอายุ 16 ปี และอาการเหม็นก็ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เคยไปปรึกษาแพทย์ก็ไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร เพราะถึงแม้ว่าจะผ่าตัดทอนซิลและมดลูกออกไปแล้ว กลิ่นตัวก็ยังเหม็นเหมือนเดิม จึงรู้สึกกลุ้มใจมาก เนื่องจากเป็นที่รังเกียจของสังคมและคนในครอบครัว จากตัวอย่างที่กล่าวนี้จะเห็นได้ว่าคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็นนั้น จะมีปัญหามากทั้งทางด้านสังคมและจิตใจ และถ้าไม่ได้รับการบำบัดดูแลอย่างถูกวิธีแล้ว ก็อาจจะทำให้คิดสั้น หรือเกิดปัญหาหย่าร้างระหว่างสามีหรือภรรยา และในที่สุดก็อาจคิดสั้นฆ่าตัวตายได้
โรคกลิ่น ตัวเหม็นนั้น มีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เมื่อประมาณ 700 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามหลักวิทยาศาสตร์ในแถบยุโรปมีอุบัติการณ์เกิดโรคนี้ไม่น้อยกว่า 1% และผู้ที่เป็นโรคนี้ มักจะประสบปัญหาดังกล่าวข้างต้นเกือบทุกราย สำหรับในประเทศไทยยังไม่ทราบอุบัติการณ์เกิดโรคนี้แน่นอน แต่ก็มีผู้ที่เป็นโรคนี้มาพบแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ อยู่เรื่อยๆ บางรายแพทย์ต้องให้ยากล่อมประสาท ยาคลายเครียดและยาแก้ความซึมเศร้าไปรับประทาน ซึ่งยาประเภทนี้นอกจากจะไม่ทำให้อาการของโรคทุเลาลงแล้ว กลิ่นตัวยังจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นด้วย ในวงการแพทย์เองก็ยังไม่ทราบว่าจะบำบัดรักษาโรคนี้อย่างไรดี มีคนที่เป็นโรคกลิ่นตัวเหม็นหลายราย ต้องหันไปพึ่งไสยศาสตร์ หมอพระ หมอผี แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
ข้อมูลวิจัยจากสาธารณสุข ร้อยละ 23% ของผู้หญิงที่มีปัญหา ด้านมะเร็งปากมดลูก เกิดจาก การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่สะอาด ต้นเหตุแห่งปัญหา คือ SMEGMA คือ คราบไคลสีขาวขุ่นที่ติดปลายอวัยวะเพศชาย ถ้าคุณผู้ชายบางท่านมีปัญหาด้านปลายหัวยังไม่ขลิบหรือไม่เปิดหรือเปิดไม่หมด ก็จะทำให้มีปัญหามากขึ้นในการหมักหม เชื้อโรค โดยเฉพาะเชื้อไวรัส HPV คือไวรัส ต้นเหตุ ของ มะเร็งปากมดลูก ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุต้องแก้ให้ครบทุกด้านทั้งคุณผู้หญิงและผู้ชาย เพราะถ้าใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะผู้หญิงอย่างเดียวหาก มีเพศสัมพันธ์กันก็มีโอกาสในการกลับมามีปัญหาอีกคาเอรุ ผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาจุดช่อนเร้นจากต้นเหตุเป็นทางเลือกด้านสมุนไพรก่อนที่จะ ใช้สารเคมีในการแก้ปัญหาที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับค่า PH ที่เหมาะสมกับผิวจุดบอบบางของมนุษย์มากที่สุด โดยแยกเฉพาะด้านผู้ชายและด้านผู้หญิง สมุนไพรที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยทางกระบวนการวิทยาศาสตร์จากศูนย์ตรวจสอบ คุณภาพคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย โดยมีสมุนไพรหลักคือสาหร่ายไกคือสาหร่ายชั้นสูงมีครอโรฟิลล์สูงมีคุณสมบัติ ในการดักจับกลิ่นสูงมาก ใบฝรั่งดอยอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตรมีคุณสมบัติในการระงับเชื้อแบตทีเรียและมีครอโรฟิลล์ที่มีคุณสมบัติใน การดักจับกลิ่นสูงกว่าใบฝรั่งพื้นราบ 10 เท่า ห้อมเกี้ยวคำมีคุณสมบัติในการระงับเชื้อรา และสมุนไพรอื่น ๆ ที่เป็นความลับชาติพันธุ์โบราณลุ่มน้ำโขงที่บันทึกในประวัติศาสตร์เมื่อ 700 ปีก่อนศ.ศ. 1409
จุดสังเกตุผู้มีปัญหากลิ่นจุดช่อนเร้นจากต้นเหตุ
1. ผู้ชายมักมี SMEGMA คราบไคลสีขาวขุ่นออกเหลืองมากผิดปกติ
2. เวลาอาบน้ำเสร็จเอาผ้าเช็ดตัวเช็ดจะมีกลิ่นติดผ้าเช็ดตัว
3. ใช้ชุดทำความสะอาดทั่วไปหรือใช้ยาสอดไม่ได้ผล
การแก้ปัญหาที่ได้ผลต้องแก้ที่ต้นเหตุทั้งผู้ชายและผู้หญิง
กลิ่นอับที่เท้านั้น เกิดขึ้นจากการหมักหมมของเหงื่อที่ออกมาจากเท้า ต้นเหตุก็เพราะว่าเท้านั้นเป็นอวัยวะที่มีต่อมเหงื่ออยู่มาก แถมยังใช้งานตลอดทั้งวัน ทำให้เหงื่อออกมาก เมื่อเหงื่อออกแล้วไม่ดูแลให้ดี ก็มีโอกาสที่จะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นมาได้
บางคนใส่รองเท้าเป็นปีๆ ไม่เคยซัก น้ำไม่เคยโดน หรือใส่ถุงเท้าก็ซ้ำๆ กัน หยิบได้คู่ไหนก็ใส่คู่นั้น กลับมาก็ทิ้งไว้ที่เดิม รุ่งเช้าก็ใส่ใหม่ พฤติกรรมอย่างนี้ต่อให้เป็นถุงเท้าที่มีวิวัฒนาการนาโนซิลเวอร์ก็ช่วยคุณไม่ ได้ครับ
ดังนั้นคุณจะต้องรู้จัก รักษาความสะอาดที่เท้าอย่างจริงจัง อาจเริ่มด้วยการหาผ้าขนหนูสะอาดๆ สักผืน ใช้สำหรับเช็ดเท้าให้แห้ง จากนั้นใช้พัดลมเป่าก่อนที่จะใส่ถุงเท้าและรองเท้า อาจจะทาแป้งเด็กที่เท้าสักหน่อย เพื่อให้ไม่อับชื้นเกินไป หากมีการดูแลเท้าอย่างสม่ำเสมอแล้ว กลิ่นอับก็จะเกิดขึ้นได้ยาก
นอกจากการดูแลรักษาความ สะอาดที่เท้าแล้ว ใครที่เป็นแผลที่เท้าแล้วไม่ดูแลอย่างถูกวิธี ก็ส่งผลให้เกิดกลิ่นเท้าได้เช่นกัน แม้กระทั่งการกินอาหารมันๆ หรืออาหารที่มีไขมันสูง ไขมันจะแปรรูปเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้อุณหภูมิที่เท้าสูงขึ้น เหงื่อจึงออกมาก รวมทั้งยังทำให้แบคทีเรียขยายพันธุ์ได้ง่ายและทำให้เกิดกลิ่นเท้า ดังนั้นหลีกเลี่ยงหรือลดลงได้ก็ควรทำครับ
การเดินสวนด้วยเท้าเปล่านั้นเป็นวิวัฒนาการมาจากการกดจุดสะท้อนกลับของ ประเทศจีน หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าปลายเท้าของเรานั้นมีจุดเชื่อมโยงกับอวัยวะภาย ในร่างกายมากมาย เมื่อสองเท้าเรารับภาระอย่างใหญ่หลวงมาตลอด ก็ถึงคราวที่เราจะหาทางผ่อนคลายให้กับมันบ้าง
การปล่อยให้เท้าเปล่าๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติ เช่น การเดินบนหญ้า การสัมผัสกับน้ำค้างบนยอดหญ้า การถูเท้าไปกับก้อนหินก้อนกรวด ล้วนส่งผลให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นระบบประสาทให้รับรู้ได้ดีขึ้น
การเดินด้วยเท้าเปล่าและ สัมผัสกับธรรมชาติในแต่ละครั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้เวลานาน เพียงแค่ 25 นาทีต่อครั้ง หาโอกาสทำแบบนี้ให้ได้ทุกวัน เท้าของคุณก็จะผ่อนคลายอย่างที่คุณไม่เคยรู้สึกมาก่อน และหลังจากที่ผ่อนคลายเท้าด้วยการเดินแล้ว อย่าลืมใช้ผ้าสะอาดเช็ดเท้าด้วย เพราะเท้านั้นมีการหายใจอยู่ตลอดเวลา
ข้อมูลจาก http://www.agalico.com
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)